5.0
ความคิดเห็น
6.3M
ชม
756
บท

เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...

บทที่ 1 การเกิดใหม่ การหย่าร้าง

“ยูชิงซู คุณ ตายแน่!”

บนเตียงขนาดใหญ่ปรากฎร่างชายผู้หนึ่งที่แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ เขาใช้มือทั้งสองของเขากำรอบลำคอของหญิงสาวแล้วออกแรงบีบอย่างแรง

หายใจไม่ออก!

หญิงสาวเพี่งจะตื่นมาก็ถูกชายผู้นั้นรัดคอโดยที่เธอยังไม่ทันรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอสัมผัสได้แค่เพียงว่าออกซิเจนในปอดค่อย ๆ จางลง และความปรารถนาที่จะเอาตัวรอดจากสัญชาตญาณของเธอ ทำให้เธอต้องยกมือขึ้นเพื่อจับมือของอีกฝ่ายแล้วพยายามดึงมันออกจากกัน

แต่เธอก็สู้แรงของเขาไม่ไหว การต่อต้านของเธอกลับทำให้เขาออกแรงเพิ่มขึ้นไปอีก ดวงตาทั้งสองของชิงซูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ประสาทการรับรู้ของเธอค่อย ๆ เลือนลาง สติของเธอกำลังจะหลุดลอยไป

ปัง!

แม่บ้านพังประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นภาพดังนั้น เธอรีบรุดเข้าไปคว้าแขนของชายผู้นั้นออก “นายน้อยคะ นายน้อย ปล่อยสิคะ ปล่อย! นายหญิงกำลังจะตายแล้วนะคะ”

“เธอสมน้ำหน้าที่โดนมันแล้ว!” เขาส่งเสียงรอดไรฟัน ดวงตาทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยความคับแค้น

แม่บ้านพบว่าร่างของชิงซูนั้นค่อย ๆ อ่อนแรง จนเกือบนิ่งสนิทในที่สุด แม่บ้านจึงรีบคุกเข่าขอร้องข้างเตียง “นายน้อยคะ ถ้าฉันปล่อยให้นายน้อยพลั้งมือฆ่านายหญิงไปแล้ว แล้วอย่างนี้คุณจะให้ฉันมีหน้าไปพบคุณท่านได้อย่างไร วิญญาณของคุณท่านคงจะไม่มีทางสงบสุขแน่ ๆ ” แม่บ้านร่ำไห้

‘คุณย่า?’

อารมณ์ของ ‘จ้านซือซั่ว’ สั่นคลอนเมื่อได้ยินแม่บ้านเอ่ยถึงคุณย่า แรงบีบที่มือจึงค่อย ๆ คลายลง

ชิงซูใช้โอกาสนี้ดึงมือของซือซั่วออก แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เธอหอบหายใจแล้วเขยิบถอยหลังด้วยใบหน้าซีดเผือด

“นายน้อยคะ ไหน ๆ วันนี้คุณทั้งสองก็จะหย่ากันแล้ว จากนี้คุณก็ไม่ต้องทนเห็นหน้านายหญิงต่อไปอีกแล้ว!ปล่อยเธอไปเถิดค่ะ” “นายน้อยได้โปรดเห็นแก่หน้าแม่ของนายหญิงที่เคยช่วยชิวิตคุณท่านไว้ด้วยนะคะ ฉันขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรนายหญิงเลย อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นอย่างนี้อีกเลยนะคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้นายน้อยซือซั่วก็สงบลง เขาผละลุกออกจากเตียงแล้วคว้าเสื้อมาสวมไว้ด้วยท่าทีเย้อหยิ่ง

“ใบหย่าฉันจะให้เฟินฉีส่งมาให้ เธอเซ็นเสร็จก็รีบไสหัวออกไปซะ!อย่าให้ฉันได้เห็นหน้าเธอที่นี่อีก!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อพูดจบเขาก็จากไปพร้อมแม่บ้านตามไปด้วย

ประตูถูกปิดอย่างรุนแรงจนเสียงนั้นดังกระเทืยนโสตประสาทของชิงซู เธอเอามือทาบอกด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดขาว สมองของเธอสับสน

เธอก้มศีรษะลงและมองสำรวจดูรอยช้ำบนร่างกายที่เปลือยเปล่าของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา

เหตุการณ์เมื่อสักครู่นอกจากจะทำให้เธอเกือบจะลมหายใจลงในนาทีสุดท้ายแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอื่นบนร่างกายที่เธอได้รับ

เมื่อสติของเธอกลับมาทำให้เธอรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน

ชิงซูไม่พบเสื้อผ้าของสตรีในห้องแต่งตัว ตู้เสื้อผ้ามีเพียงแค่เสื้อเชิ้ต กับกางเกง และชุดสูทสีทึบสำหรับผู้ชายเท่านั้น

เธอจึงทำได้แค่เลือกหยิบเสื้อเชิ้ต และกางเกงขายาวสีดำมาสวมใส่ แต่ไซส์มันใหญ่เกินไป ขากางเกงนั้นยาวลงไปกองกับพื้นห้องจนเกิดเป็นภาพที่ดูไม่จืดเลย

ความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอยังไม่บรรเทาลง ขมับของเธอเต้นเป็นจังหวะ ชิงซูทรุดตัวลงบนโซฟา แล้วหลับตาพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในไม่ช้าความทรงจำอื่นที่ไม่ใช่ของเธอก็แทรกเข้ามาในหัวของเธอเต็มไปหมด

ผ่านไปพักใหญ่ เธอจึงค่อย ๆ ยกเปลือกตาขึ้น เธอได้เรียบเรียงเหตุการณ์ผ่านความทรงจำทั้งหมดของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่เธอจะเสียชีวิต และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปสองประการ

เธอได้กำเนิดใหม่จาก ‘หลัวหยาน’ สู่ร่างของ ‘ยูชิงซู’

เจ้าของร่างเดิมชิงซูนั้นเป็นคุณหญิงน้อยกำพร้าแม่ แม่ของเธอจากไปด้วยอาการป่วยที่ยากเกินรักษา ส่วนพ่อของเธอนั้นเป็นผู้ชายสารเลวที่ไม่เอาถ่าน อีกทั้งชิงซูยังหลงรัก ‘จ่านซือซั่ว’ อย่างสุดหัวใจ

ก๊อก ก๊อก

เสียงคนมาเคาะประตู พร้อมด้วยเสียงเรียกที่เย็นชาของใครคนหนึ่ง “นายหญิง คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”

ชิงซูจัดการพับแขนเสื้อ และม้วนกางเกงขึ้นก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตู ชายร่างสูงที่ดูเย็นชายืนอยู่ข้างหน้าเธอพร้อมกับเอกสารในมือของเขา

“เฟินฉี” เธอค้นหาความทรงจำเกี่ยวกับชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ยากเย็นนัก

เขายื่นปากกาพร้อมเอกสารการหย่าให้เธอ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “นายหญิง คุณซือซั่วส่งให้ผมมาดำเนินการเรื่องการหย่าระหว่างคุณ กับนายน้อยซือซั่ว นี่เป็นข้อตกลงทั้งหมด กรุณาเซ็นชื่อในเอกสารด้วย”

ชิงซูเหลือบมองเอกสารการหย่าร้างที่ถูกส่งมา เธอนึกถึงคำที่แม่บ้านพูดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ เธอถึงตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบการแต่งงานปีที่สองของเจ้าของร่างเดิมและจ่านซือซั่ว

นี่เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เอกสารการหย่าก็ถูกร่างขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหรอ? ‘เห็นได้ชัดว่า ซือซั่วรังเกียจชิงซูได้มากเพียงใด’

เธอหยิบเอกสารขึ้นมาพร้อมเซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว

“เสร็จแล้ว” ชิงซูยื่นเอกสารกลับไปให้เฟินฉี

เฟินฉีรู้สึกประหลาดใจกับการยินยอมอย่างง่ายดายของชิงซู ก่อนที่เขาจะเข้ามาหาชิงซู เขาได้รับคำสั่งจากคุณซือซั่วว่า ‘หากชิงซูไม่ยินยอม ก็ให้บังคับเธอพิมพ์ลายนิ้วมือลงไปให้ได้’

“คุณชิงซู คุณจะไม่อ่านข้อตกลงการหย่าหน่อยเหรอครับ?” เฟินฉีรับมันไว้โดยไม่รีบร้อนกล่าว

ชิงซูเลิกคิ้วแล้วตอบว่า “ไม่ล่ะ”

“คุณไม่อยากรู้หรอกว่าคุณจะได้อะไรหลังจากการหย่าร้างในครั้งนี้” เฟินฉีขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามย้ำอีกครั้ง

ชิงซูถลกขากางเกงขึ้นอีกครั้ง แล้วยิ้มตอบกลับไปว่า “ไม่นิ ไม่เห็นมีอะไรต้องอยากรู้เลย” เธอไม่ต้องดูก็เดาได้ไม่ยาก ‘ผลลัพธ์คงมีได้แค่สองอย่าง คือทำให้เธอล้มละลาย หรือไม่ก็ไล่เธอให้พ้นจากบ้านไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินใด ๆ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ เพราะคงไม่เกินความสามารถของทนายมืออาชีพไปได้หรอก

เมื่อเห็นท่าที่เฉยเมยของชิงซู เฟินฉีก็หลับตาแล้วตอบกลับไปว่า “คุณชิงซู คุณหยูเฉิงแค่ต้องการให้คุณย้ายออกจากบ้านไปโดยไม่ได้รับทรัพย์สินใด ๆ เท่านั้น”

“ถ้างั้นฉันก็ฝากขอบคุณเจ้านายของคุณแทนฉันด้วยก็แล้วกัน” เธอยังทำท่าเฉยเมยต่อ ชิงซูเจ้าเดิมจะรักจ่านซือซั่วมากเท่าไร แต่เธอไม่สน เพราะเธอเองไม่ได้รัก

เธอไม่อยากอยู่กับคนที่อยู่ดี ๆ ก็ทำร้ายเธออย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาซะเธอเกือบตายรอบสอง มันไม่ง่ายที่รอดชีวิตได้ เธอต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้

เฟิงฉีจ้องมองไปยังลำคอขาวเรียวของเธออย่างไม่ตั้งใจ

“คุณอยากให้ผมช่วยเรียกหมอมาให้ไหมครับ?”

เมื่อชิงซูได้ยินคำเหล่านี้ก็สะกิดให้เธอนึกขึ้นได้ ถึงรอยแดงปื้นใหญ่รอบลำคอที่เกิดขึ้น หวนให้นึกถึงความรู้สึกที่ใกล้จะขาดใจตายกลับเข้ามาอีกครั้ง

เธอส่ายหัว “ไม่ ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก”

“ถ้าอย่างนั้น ก็ขอให้คุณรีบเก็บสัมภาระแล้วออกไปให้จากที่นี่ให้เร็วที่สุดด้วยครับ” น้ำเสียงของเฟิงฉีเย็นชา

ชิงซูพยักหน้าโดยไม่ลังเล เธอถกขากางเกงขึ้นพร้อมกับเดินเท้าเปล่ากลับไปยังห้องของเธอทันที ซือซั่วเกลียดชิงซูเป็นอย่างมาก เขาแทบไม่อยากเห็นหน้าเธอ เพราะฉะนั้นระยะห่างระหว่างห้องของเธอและเขาจึงห่างออกมาพอสมควร

หลังจากเดินมาได้สักพัก ในที่สุดก็ถึงห้องของเธอ

เดิมทีห้องนี้เป็นเพียงแค่ห้องที่ไว้ใช้สำหรับเก็บของ แต่เมื่อเธอได้จดทะเบียนสมรสกับจ่านซือซั่ว ห้องนี้ก็กลายเป็นห้องนอนของเธอไป เธอผลักบานประตูออก แล้วพาขากางเกงที่ยาวพะรุงพรังลากผ่านทางเดินแคบ ๆ เข้าไปในห้อง

ห้องนี้มีขนาดเล็กมากซะจนไม่อาจจะขยับตัวไปไหนได้เลย ทั้งห้องมีเพียงแค่เตียงนอน และโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ เท่านั้น

ของส่วนตัวของชิงซูมีไม่มากนัก เธอมีแค่เสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น และเครื่องสำอางค์เล็กน้อยแค่นั้นเอง เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดแจงยัดเสื้อผ้าสองสามชิ้นใส่กระเป๋าเดินทางของเธอ จากนั้นก็ถือมันออกไป

“เอาล่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้วล่ะเฟินฉี ฉันไปก่อนนะ ไปแล้วไปลับไม่หวนกลับน่ะ!” พฤติกรรมของชิงซูตอนนี้ราวกับนกน้อยที่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ

“จะไปไหนคะพี่สาว?” ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวที่สวมชุดสูทคนหนึ่งก้าวออกมา ปลายของรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบกับกระเบื้องหินอ่อนเกิดเป็นเสียงดังก้อง เสียงพูดของเธอนั้นนุ่มนวลน่าฟัง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Adolf Dunne

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
แสนร้าย แสนรัก
1

บทที่ 1 การเกิดใหม่ การหย่าร้าง

29/06/2022

2

บทที่ 2 คนตีสองหน้าเก่ง เฉินเฉียนเฉียน

29/06/2022

3

บทที่ 3 ฝังไว้ข้างหลุมฝังศพของคุณ

29/06/2022

4

บทที่ 4 พินัยกรรม

29/06/2022

5

บทที่ 5 กลับวิลล่าตระกูล ยู

29/06/2022

6

บทที่ 6 แจ้งตำรวจ

29/06/2022

7

บทที่ 7 บุกรุกบ้าน

29/06/2022

8

บทที่ 8 เจ้าของวิลล่าแห่งนี้คือ ยูชิงซู

29/06/2022

9

บทที่ 9 แขกไม่ได้รับเชิญ

29/06/2022

10

บทที่ 10 ผู้หญิงน่ะ ต้องแลกกันเล่น มันถึงจะสนุก

29/06/2022

11

บทที่ 11 จ่านซือซั่ว นายอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!

29/06/2022

12

บทที่ 12 ขอความเป็นธรรมให้คุณกัว

29/06/2022

13

บทที่ 13 คนทำผิดควรคุกเข่าขอโทษ

29/06/2022

14

บทที่ 14 คนใช้ของตระกูล ยู ลาออกไปหมดแล้ว

29/06/2022

15

บทที่ 15 จากเศรษฐีณีสู่วิถียาจก

29/06/2022

16

บทที่ 16 ตระกูล ยู กรุ๊ป ล้มละลาย

29/06/2022

17

บทที่ 17 มูลค่าหนี้สิ้น 9.99 ล้าน

29/06/2022

18

บทที่ 18 อ้อนวอนกับจ่านซือซั่ว

29/06/2022

19

บทที่ 19 การยั่วยุของเฉินเฉียนเฉียน

29/06/2022

20

บทที่ 20 อะไรที่ไม่ใช่ของเธอ · มันก็จะไม่ใช่ของเธออยู่วันยังค่ำ

29/06/2022

21

บทที่ 21 ปกป้องตระกูล ยู และตระกูล ยู กรุ๊ป

29/06/2022

22

บทที่ 22 ลานจอดรถ

29/06/2022

23

บทที่ 23 ข้อตกลงซื้อตระกูล ยู กรุ๊ป

29/06/2022

24

บทที่ 24 ไม่ต่ำช้าพอที่จะแต่งงานกับคุณได้ยังไง

29/06/2022

25

บทที่ 25 ‘เงื่อนไข’ ของจ่านซือซั่ว

29/06/2022

26

บทที่ 26 หัวหน้าทีมโปรเจกต์สุดแปลก

29/06/2022

27

บทที่ 27 แฮกเกอร์ คิงโพแดง

29/06/2022

28

บทที่ 28 ลูกน้องชิงติง

29/06/2022

29

บทที่ 29 ชิงติง:ผมไม่เคยสงสัยในตัวคุณเลย

29/06/2022

30

บทที่ 30 คุณเชื่อใจฉันสักครั้งได้ไหม!

29/06/2022

31

บทที่ 31 หมาและยูชิงซูห้ามเข้า

30/06/2022

32

บทที่ 32 ถึงตาคุณทำตามสัญญาแล้ว!

01/07/2022

33

บทที่ 33 ลูกสาวจอมทำลายล้าง สัมภาษณ์งานที่ตระกูล จ่าน กรุ๊ป

02/07/2022

34

บทที่ 34 ตอกหน้ากลับด้วยคะแนนเต็ม

03/07/2022

35

บทที่ 35 โชคเข้าข้าง

04/07/2022

36

บทที่ 36 ความโกรธ ยอมรับผลที่ได้มา

05/07/2022

37

บทที่ 37 จะไปหรือไม่ไป ฉันเป็นคนตัดสินเอง

06/07/2022

38

บทที่ 38 ห้องเก็บเอกสาร

07/07/2022

39

บทที่ 39 เฉียวปวดใจ

08/07/2022

40

บทที่ 40 เฉียวคุกเข่าขอโทษ

09/07/2022