สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
ผู้เขียน:อรจิรา กมลานันท์
หมวดหมู่โรแมนติก
สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
มู่เฉินเดินหรี่ตาเข้าไปหาเธอ “เท่าที่ฉันได้ยินมา เธอปีกกล้ากว่านี้นะ แล้วทีตอนนี้ทำไม่ทำตัวอ่อนปวกเปียกอย่างนี้?”
“ฉัน... ฉันแค่อยากไปเรียนต่อ” หย่าหยิงพูดตะกุกตะกัก ในขณะที่ยังคงก้มหน้าอยู่
“ถ้าเธอจะมาที่นี่เพื่อพูดเรื่องเรียน ก็หุบปากไปซะ เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเด็ดขาด” มู่เฉินคิดไม่ถึงว่าหย่าหลินจะมาขออนุญาตไปเรียนต่อ เขาคิดอย่างแน่วแน่ว่าเธอกำลังเสแสร้ง เพียงเพื่อต้องการหาโอกาสออกไปเที่ยวเล่น
หย่าหยิงรู้สึกหมดหวัง เธอจะไม่ได้ไปเรียนต่อแล้วใช่ไหม? อีกสองปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว เธอจะปล่อยมันไปแบบนี้เหรอ?
เมื่อเห็นว่าหย่าหยิงยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มู่เฉินก็ไม่สนใจเธอ เขาเดินเข้าห้องน้ำไป และคิดว่าเธอจะออกไปจากห้องหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ แต่เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จออกมา เขาก็ยังเห็นเธอยืนอยู่ที่ประตู เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ดื้นด้านเสียจริง
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตกลง เธอก็ยืนก้มหน้า และกำลังจะเดินออกไป ด้วยหัวใจที่แตกสลาย
“เดี๋ยว!” มู่เฉินเรียกเธอเอาไว้
หย่าหยิงหันกลับมามองเขาอย่างมีความหวัง มู่เฉินนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา
เขาหันไปสบตาเธอเข้า ในขณะที่เธอกำลังรอว่าเขาจะพูดอะไร แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา สายตาของเขาที่จ้องมาทำให้หย่าหยิงรู้สึกกลัว เหตุการณ์เมื่อคืนนี้เหมือนฝันร้าย และเธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก เธอเตรียมจะถอยออกไป
เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร เธอก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป “ความอดทนเธอมีแค่นี้เหรอ?” มู่เฉินเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ เสียงของเขาทำให้เธอหยุดนิ่งอีกครั้ง
คราวนี้หย่าหยิงเดินขึ้นไปหาเขาแล้วถามว่า “คุณจะยอมให้ฉันไปเรียนใช่ไหมคะ?”
มู่เฉินลุกขึ้นยืนตรงหน้าเธอ เขาใช้ปลายนิ้วเชิดคางของเธอขึ้น บังคับให้เธอมองตาเขา “มีผู้ชายกี่คนที่รอเธออยู่ข้างนอก? ทำไมถึงอยากที่จะออกไปนัก? ฮึ?” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และหยาบคาย
“คุณหมายความว่ายังไงคะ? ฉันก็แค่อยากจะไปเรียนต่อ! ให้ฉันสาบานก็ได้!” แม้ว่าคำพูดของเธอจะดูไม่มีน้ำหนักเอาซะเลย แต่เธอก็อยากจะลองดู
เธอรู้ดีว่าหย่าหลินเป็นคนแบบไหน เหตุผลที่เธอต้องแต่งงานกับชายคนนี้แทนหย่าหลิน ก็เพื่อปกป้องตระกูลฉินและฉางชุน พ่อบุญธรรมของเธอ
ทั้งหมดที่เธอทำจนถึงตอนนี้ก็เพื่อตอบแทนพระคุณของเขา แต่เธอจะไม่ละทิ้งความฝันของเธอเด็ดขาด
“เธอก็รู้ว่าฉันเกลียดคนโกหก” มู่เฉินพูดอย่างเกรี้ยวกราด
หย่าหยิงพยักหน้าอย่างเร็ว ทุกอย่างที่เธอพูดไม่ได้โกหก ยกเว้นแค่ตัวตนของเธอ
“ถ้าฉันรู้ว่าเธอโกหกล่ะก็ เธอรู้ราคาที่เธอจะต้องจ่ายให้ฉันแล้วสินะ!” มู่เฉินอยากจะเห็นว่าหย่าหลินจะมาไม้ไหน เขาอยากจับเธอให้ได้คาหนังคาเขา
“ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไปแค่มหาวิทยาลัยแล้วก็กลับบ้านเท่านั้น ฉันจะไม่ไปที่อื่น” เธอให้คำสัญญากับเขา เขาอนุญาตให้เธอไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยได้ แต่เธอก็จะไปทำงานพิเศษไม่ได้ แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอมล่ะ
“ออกไปได้แล้ว!” มู่เฉินสั่ง เขาไม่อยากให้มีคนแบบเธออยู่ที่นี่ โดยเฉพาะในห้องของเขา
หย่าหยิงโค้งให้เขา เพื่อขอบคุณ “ขอบคุณค่ะ คุณเหลิ่ง” เธอไม่กล้าเข้าไปใกล้ปิศาจร้ายอย่างเขา จากนั้นจึงเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ
ไม่มีความแตกต่างใด ๆ กับการที่ต้องอาศัยอยู่ระหว่างตระกูลฉิน และตระกูลเหลิ่งเลย พ่อแม่แท้ ๆ ของเธอทิ้งเธอไปตั้งแต่เกิด ดังนั้นหย่าหยิงจึงเชื่ออย่างหมดใจว่าชะตาชีวิตของเธอถูกกำหนดให้เธอต้องโดดเดี่ยวไปทั้งชีวิต นั่นคือเหตุผลที่เธออยากตั้งใจเรียนเพื่อทำตามความฝัน แล้วเธอก็จะได้เป็นอิสระ
มู่เฉินไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่เหลือบมองเธอตอนที่เธอเดินออกไป
หย่าหยิงได้อยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่ชั้นล่าง มีเตียงเล็ก ๆ กับโต๊ะทำงานอย่างละตัว มีหน้าต่างที่ให้แสงแดดส่องเข้ามาถึง ความจริงห้องนี้ดีกว่าห้องของเธอที่บ้านตระกูลฉินซะอีก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ เธอต้องเสียความเป็นอิสระไป
“คุณเหลิ่ง ให้ฉันมาบอกกับคุณว่า คุณจะออกไปนอกวิลล่าไม่ได้เว้นแต่ท่านจะอนุญาตนะคะ หากคุณต้องการอะไรเพิ่ม คุณก็มาหาฉันได้ค่ะ” น้าเหอพูดอย่างสุภาพ
“ขอบคุณค่ะ น้าเหอ ฉันจะจำไว้” หย่าหยิงยืนมองไปรอบ ๆ ห้อง ในห้องนี้ไม่มีอะไรเป็นของเธอเลย สัมภาระส่วนใหญ่ของเธออยู่ที่บ้านเก่า และบางส่วนก็อยู่ที่มหาวิทยาลัย สิ่งที่เธอจำเป็นจะต้องซื้อก็เช่น เสื้อผ้า
แต่ว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน
หลังจากนั้นไม่นาน น้าเหอก็นำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น และเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เธอ หย่าหยิงไม่คาดหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านี้ เธอมองดูสิ่งของเหล่านี้อย่างโล่งใจ และหวังว่าการอยู่ที่นี่จะไม่เลวร้ายเกินไป
เมื่อเธอไม่มีอะไรที่ต้องทำในห้อง ดังนั้นหย่าหยิงจึงเข้าไปช่วยในห้องครัว น้าเหอตกใจมากตอนที่เห็นเธออยู่ในครัว เธอได้ยินมาว่า คุณเหลิ่งแต่งงานกับผู้หญิงที่เอาแต่ใจ และเย่อหยิ่ง แต่คุณนายเหลิ่ง ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอได้ยินมาเลย
เมื่อสังเกตว่าหย่าหยิงล้าง และหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว น้าเหอจึงถามว่า “คุณนายเหลิ่ง คุณทำอาหารเป็นไหมคะ?”
หย่าหยิงตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไม่ได้ทุกอย่างหรอกค่ะ ทำได้แค่กับข้าวง่าย ๆ” หย่าหยิงเคยเรียนทำอาหารมาจากแม่บ้านตระกูลฉินอยู่บ้าง
“คุณอยากจะทำอาหารกลางวันให้ คุณเหลิ่งไหมคะ?” น้าเหอถามขึ้น เธอรู้ว่าเธอกำลังเข้าใจหย่าหยิงผิดไป คุณนายเหลิ่ง ไม่ได้เป็นคุณหนูไฮโซเอาแต่ใจ และอารมณ์ร้ายอย่างที่เธอคิด สิ่งที่น้าเหอเห็นในตัวหย่าหยิง ช่างแตกต่างจากสิ่งที่เธอได้ยินมาเป็นอย่างสิ้นเชิง
หย่าหยิงหยุดล้างผัก และหันไปหาเธอ “นั่นจะไม่ทำให้ คุณเหลิ่งโกรธเหรอคะ?” เธอกลัวเขามาก เธอไม่อยากทำให้เขาโกรธ แล้วมาพาลเรื่องที่เธอขอเขาไปเรีอนต่อ
“ไม่หรอกค่ะ คุณท่านไม่โกรธหรอกค่ะ คุณเหลิ่ง เป็นคนไม่ค่อยพูด และอาจจะดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วท่านเข้ากับคนง่ายนะคะ และท่านก็ไม่ค่อยจู้จี้เรื่องอาหารการกินเท่าไร ท่านไม่น่าจะทราบว่าคุณเป็นคนทำ” น้าเหอทำงานในวิลล่านี้มาหลายปีแล้ว เธอรู้จักมู่เฉินเป็นอย่างดี
หย่าหยิงคิดตามสิ่งที่น้าเหอพูด น้าเหอบอกว่าเขาเข้ากับคนง่าย แต่หย่าหยิงไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ แค่เขามองมามันก็ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีวันเข้ากับเขาได้
สายตาเย็นชาของเขา ทำให้เธอรู้สึกราวกับกำลังตกอยู่ในโลกที่เย็นเฉียบไปด้วยน้ำแข็ง
แต่ถ้าเขาไม่ได้จงใจทำร้ายเธอมากจนเกินไป เธอจะทำตามหน้าที่ และจะไม่ไปยุ่งกับเขา เพราะเธอเองก็ไม่ได้ต้องการทำให้เขาโกรธ เธอจะทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง ยังไงเสียเธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา ที่เขาซื้อมาด้วยเงิน