สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
ผู้เขียน:อรจิรา กมลานันท์
หมวดหมู่โรแมนติก
สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
หลังจากที่หย่าหยิงเตรียมอาหารเสร็จและนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะ อานน่าก็มองอาหารด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน มู่เฉินที่นั่งตรงข้ามกับอานน่า บอกให้เธอลองชิมอาหาร และวิจารณ์อาหารพวกนั้น อานน่าชิมอาหารแต่ละจาน และไม่พอใจกับรสชาติเอาซะเลย เธอชี้นิ้วติว่าจานนั้นก็เค็มเกินไป หรือจานโน้นก็เผ็ดเกินไป
เมื่อได้ยินแบบนั้น มู่เฉินก็จ้องไปที่หย่าหยิงแล้วตะหวาดเธอเสียงดัง “เธอจะแก้อค้นฉัน ที่ฉันสั่งให้เธอไปทำอาหารเหรอ?”
“เปล่าค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” หย่าหยิงส่ายหัวเพื่อปฏิเสธ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจงใจแกล้งเธอ เธอไม่ได้โต้เถียงต่อ เพราะเธอรู้ดีว่าต่อให้เธอพูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
“ไม่งั้นเหรอ? แต่อาหารพวกนี้ไม่มีอะไรที่กินได้สักอย่าง! รสชาติห่วยแตก!” เขาโวยวายเสียงดัง ก่อนจะปัดจานอาหารทั้งหมดลงบนพื้น ทั้งเศษอาหาร และชิ้นส่วนของจานตกกระจายเต็มพื้น
ถึงแม้หย่าหยิงจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่มันก็ทำร้ายความรู้สึกของเธออยู่ดี เธอตั้งใจทำอาหารมาก แต่เขาไม่เคยเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เธอพยายามเลยแม้แต่น้อย ความพยายามทั้งหมดของเธอสูญเปล่า ด้วยน้ำมือปิศาจเยี่ยงเขา
แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจอะไร เธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขา เพราะวันนี้เธอเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว
ทั้งเรื่องที่ยี่เฟิงมีผู้หญิงคนอื่น และเรื่องที่มู่เฉินกับอานน่าเย้ยหยันเธอ
เมื่อเห็นหย่าหยิงไม่โต้ตอบอะไร มู่เฉินก็ยิ่งไม่พอใจหนักขึ้น เขาหรี่ตาลงจ้องเขม็งไปที่เธออย่างโมโห และยกมือขึ้นตบไปที่หน้าของหย่าหยิง เขาตบเธออย่างไม่ยั้งมือ จนเธอล้มลงไปกองกับพื้น
เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรต่อยเข้าที่หน้าอย่างแรง ‘เจ็บ ที่ไหนได้ ฉันยังคงรู้สึกเจ็บอยู่’
“ทำความสะอาดซะ!” มู่เฉินไม่ชอบที่เห็นท่าทีไม่รู้ร้อน ไม่รู้หนาวของเธอ มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเห็นเธอทำราวกับไร้ความรู้สึก
เธอควรจะร้องไห้อ้อนวอนเขา แต่เธอกลับไม่ทำแบบนั้น
เขาเคยชินกับการได้คุมเกม แต่เขาก็ต้องหงุดหงิดที่เขาควบคุมหย่าหยิงไม่ได้
หย่าหยิงไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอคุกเข่าลงบนพื้น และก้มเก็บจานที่แตกทีละชิ้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอก้มเก็บเศษจาน เธอไม่ทันระวังทำให้นิ้วของเธอถูกบาดจนเลือดไหลออกมา แต่เธอก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะไปทำแผลเลย เธอยังคงเก็บเศษจานต่อไป
แล้วก็นำไม้กวาดมากวาดเศษอาหาร สิ่งที่เธอโดนมันเกินความคาดหมายของเธอมาก
เธอตัดพ้อให้กับโชคชะตาของเธอเอง
เธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลฉิน เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พวกเขารับมาอุปการะ ผู้ชายที่เธอรัก และไว้ใจก็ทิ้งเธอไป
ซ้ำยังต้องมาสูญเสียความบริสุทธิ์ สิ่งที่เธอพบเจอมาทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกหมดหวัง เธอคงจะไม่มีโอกาสได้พบเจอสิ่งดี ๆ เหมือนคนอื่นเขา
เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนเท่านั้น ผู้ชายตรงหน้าเธอจะทรมานเธอ และดูถูกเยียดหยามเธอทุกวัน ทำให้เธอรู้สึกราวกับตกนรกทั้งเป็น และเธอก็ไม่สามรถหยุดเขาได้
เมื่อเห็นว่าเธอไม่เอ่ยอะไรออกมา มู่เฉินก็ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้น ท่าทีของเธอมันรบกวนจิตใจเขาเป็นอย่างมาก
เพราะผิดหวังกับพฤติกรรมของหย่าหยิง เขาจึงจูงมืออานน่าออกไป โดยไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง
หย่าหยิงเองก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเขา จนเธอได้ยินเสียงฝีเท้า เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเห็นพวกเขาเดินจูงมือกันออกไป
เธอรู้สึกสิ้นหวัง เธอทรุดตัวลงกับพื้นที่เย็นเฉียบ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป
เธอสะอื้นออกมา ในขณะที่เลือดของเธอหยดลงบนพื้นกระเบื้องสีขาว
สักพักน้าเหอได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ จึงเดินลงมาดู เธอมองหย่าหยิงอย่างเวทนา เธอเดาได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น อานน่าเคยมาที่วิลล่าหลายครั้งแล้ว และน้าเหอก็รู้ว่าเธอเลือกทานขนานไหน อานน่าเป็นหนึ่งในแฟนสาวของมู่เฉิน ในฐานะคนใช้ของตระกูลเหลิ่ง น้าเหอเองก็ไม่กล้าวิจารณ์เรื่องของเธอนัก
“คุณนายเหลิ่งคะ ลุกขึ้นเถอะค่ะ” น้าเหอช่วยหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอย ให้ลุกขึ้นและพาเธอไปที่ห้อง เธอหยิบกล่องยามาทำแผลให้หย่าหยิงอย่างระมัดระวัง เธอไม่คิดเลยว่ามือของเธอจะโดนจานกระเบื้องบาดลึกขนาดนี้ มันเป็นบาดแผลที่ลึกมาก
“คุณนายเหลิ่งคะ อย่าร้องไห้เลยนะคะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น” น้าเหอเช็ดน้ำตาให้หย่าหยิง เธอเป็นผู้หญิง และยังเป็นแม่คนอีกด้วย เธอรู้สึกเจ็บปวด เมื่อเห็นหย่าหยิงร้องไห้อย่างทุกข์ใจ หย่าหยิงเป็นเหมือนลูกสาวของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน หย่าหยิงก็หยุดร้องไห้และพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ขอบคุณนะคะ น้าเหอ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ ฉันแค่อยากอยู่คนเดียวค่ะ”
“ค่ะ นอนเถอะนะคะ!” น้าเหอพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอออกจากห้อง เมื่อเห็นเหย่าหยิงนอนลงและหลับตา
แสงจันทร์อ่อน ๆ ฉายจากหน้าต่างลงบนพื้น หย่าหยิงไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยิบสร้อยข้อมือทำจากเงินออกมาจากกระเป๋า เป็นสร้อยข้อมือทำจากเงินที่ออกแบบอย่างเรียบ ๆ ราคามันไม่ได้แพงมาก แต่มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของเธอ มันเป็นของขวัญวันเกิดจากยี่เฟิงที่มอบให้เธอ
แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ห้าปีก่อนยี่เฟิงทิ้งเธอไปต่างประเทศ และเขาก็ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ แต่เธอยังจดจำคำพูดแต่ละคำของเขาได้อย่างแม่นยำ
คืนนั้นทั้งคืน เธอนั่งอยู่ที่มุมห้อง ถือสร้อยข้อมือไว้ใกล้กับหัวใจของเธอ เธอได้เสียทุกอย่างไปหมดแล้ว แล้วตอนนี้เธอควรจะทำยังไงต่อไปดี?
รุ่งเช้าเมื่อน้าเหอผลักประตูเข้าไป เธอก็เห็นรอยคล้ำรอบดวงตาของหย่าหยิง เธอรู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้หย่าหยิงไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
“คุณนายเหลิ่งคะ ฉันทำอาหารเช้าให้คุณแล้วค่ะ คุณอยากจะไปทานอาหารที่ห้องอาหารไหมคะ? วันนี้คุณไม่ต้องไปเรียนก็ได้นะคะ พักผ่อนเถอะค่ะ” น้าเหอพูดอย่างเห็นใจ
หย่าหยิงมองไปที่น้าเหอ ไม่เคยมีใครห่วงใยเธอมากขนาดนี้มาก่อนเลย