สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
ผู้เขียน:อรจิรา กมลานันท์
หมวดหมู่โรแมนติก
สร้างรักด้วยกันกับเจ้าสาวจำยอม
ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในวิลล่า มู่เฉินคาดไม่ถึงว่าเขาจะชนเข้ากับผู้หญิงงี่เง่าคนนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่ช่วยเธอ ตอนที่เธอสะดุดล้มก้นจ้ำเบ้า เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา
หย่าหยิงร้องออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนจะลืมตาขึ้น แล้วเห็นสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินที่กำลังมองมายังเธอ เธอกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า “ฉันขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ทันเห็นว่าคุณกำลังเดินเข้ามา”
“เธอจะรีบไปเจอใคร?” หย่าหยิงสะดุ้งเฮือกตอนที่มู่เฉินเหน็บแนมเธอ เธอสงบสุขได้ไม่ทันไร ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว
“ฉันก็แค่จะไปเรียนค่ะ” เธอตอบออกมา ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเธอรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่เชื่อเธออยู่ดี
ในความคิดของมู่เฉิน คำพูดทุกคำของเธอเป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัว
“จริงเหรอ?” เห็นได้ชัดว่า มู่เฉินไม่เชื่อเธอเลย
หย่าหยิงเหลือมองนาฬิกาข้อมือของเธอ วันนี้เธอไปเรียนสายแน่ ๆ เมื่อเธอมองมาที่มู่เฉิน เธอสังเกตเห็นรอยแดงที่คอของเขา
เมื่อมองอย่างถี่ถ้วน เธอรู้ได้ทันทีว่ามันคือรอยลิปสติก นั่นหมายความว่า เมื่อคืนนี้เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่กลับบ้าน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจมัน จริง ๆ แล้ว เธอโล่งใจมากกว่าถ้าเขาไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ถ้าเขามีผู้หญิงคนอื่น เขาคงปล่อยให้เธออยู่อย่างสงบสุข
ถึงแม้จะเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่เธอก็ขอแค่ให้ได้ฝัน เผื่อมันจะเป็นจริงขึ้นมา
หย่าหยิงเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร อาหลี่กำลังรอเธออยู่ที่รถ เธอขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนที่รถจะขับออกไป ขณะที่นั่งอยู่บนรถ เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง กำลังครุ่นคิดว่าทำยังไงเธอถึงจะหนีไปจากมู่เฉินได้ ถึงแม้เขาจะยอมให้เธอไปเรียน แต่เขาก็ยังมีทีท่าไม่พอใจ พ่อของเธอแค่ติดหนี้มู่เฉินด้วยเงิน ดังนั้นหากเธอมีเงิน และจ่ายคืนเขาได้ เธอก็จะได้เป็นอิสระอีกครั้ง
ในขณะที่รถแล่นออกจากเขตชุมชน เข้าสู่ตัวเมือง มีรถคันหนึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงตัดหน้ารถของพวกเขาเข้าอย่างจัง อาหลี่เยียบเบรกอย่างแรงทันที ทำให้ตัวเธอกระดอนไปด้านหน้า เมื่อหย่าหยิงลืมตาขึ้นมา เธอเห็นจอแอลอีดีขนาดใหญ่ตรงริมถนน หน้าจอกำลังออกอากาศข่าวเศรษฐกิจ และหน้าของยี่เฟิงก็ปรากฏอยู่บนนั้น
หย่าหยิงดูข่าวอย่างสนใจ ตาเธอเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอรู้ว่าเขาได้เป็นกรรมการบริหารของ ยวูซื่อ กรุ๊ป หลังจากการประชุมครั้งสุดท้าย เขาก็เดินทางไปต่างประเทศ แต่เธอไม่เคยได้ข่าวคราวเขาอีกเลย เขาลืมเธอไปแล้วอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเขาถึงยังไม่มารับเธออีก?
ความคิดนี้ทำให้หย่าหยิงเสียใจมาก ๆ วันนี้ทั้งวันเธอแทบจะไม่มีสมาธิในการเรียนเลย เธอได้แต่ครุ่นคิดว่าควรจะไปหาเขาดีหรือไม่?
เธอทนรอยี่เฟิงต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาเขาที่ออฟฟิศ หลังเลิกเรียน เธอแอบเดินออกทางประตูด้านข้างของมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้อาหลี่เห็น เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้า บริษัท ยวูซื่อ กรุ๊ป ตอนนั้นเธอได้แต่กังวล ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปในอาคาร
เธอยืนมองอาคารอย่างกระวนกระวายใจจนค่ำ แต่เธอก็ไม่กล้าพอ เธอจึงตัดสินใจที่จะกลับไป
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงประตูอัตโนมัติเปิดออก แล้วเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา เธอหันหลังกลับมามอง แล้วเธอก็สังเกตุเห็นใบหน้าที่คุ้นตาอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย เขาคือยี่เฟิง เขากำลังโอบเอวผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีท่าทางที่สง่างามมาก หย่าหยิงถึงกลับใจหาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขากำลังคบกับผู้หญิงคนอื่น
ริมฝีปากของเธอเริ่มสั่น น้ำตาเริ่มไหลหลินลงมาอาบไปทั่วแก้มทั้งสองข้างของเธอ เธอเห็นพวกเขากำลังจะขึ้นรถหรูราคาแพงไปด้วยกัน
ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นรถ ทันใดนั้นยี่เฟิงก็หันกลับมามองหย่าหยิงที่กำลังยืนอยู่ ทันทีที่เขาหันมาสบตาเธอ เขาก็ยืนนิ่งงันไป หย่าหยิงหันหน้าหนีทันที เพื่อซ่อนน้ำตาของเธอไว้ไม่ให้เขาเห็น แต่เมื่อเธอหันกลับมา รถก็ขับออกไปแล้ว
เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ชีวิตของเธอล่ะ? ชีวิตของเธอช่างอาภัพนัก เธอต้องสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับคนที่ไม่แม้แต่จะรักเธอเลย เธอสูญเสียอิสรภาพให้กับปิศาจ และตอนนี้ผู้ชายที่เธอรักก็ไม่ต้องการพบเธอ เธอหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว
ตอนนี้เธอเหลือเพียงศักดิ์ศรีอันน้อยนิดของเธอเท่านั้น
เมื่อเธอกลับมาถึงมาหาวิทยาลัยก็ไม่มีใครหลงเหลืออยู่แล้ว ยกเว้นรถที่คุ้นตาพร้อมคนขับ อาหลี่กำลังรอเธออยู่ที่รถ เธอตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเขา “อาหลี่คะ ฉันขอโทษ”
“คุณนายเหลิ่ง คุณเหลิ่ง กำลังรอคุณอยู่ที่บ้านครับ” อาหลี่เปิดประตูให้เธอ จนกระทั่งเธอเข้าไปนั่งข้างใน
เมื่อหย่าหยิงกลับมาถึงวิลล่า อย่างที่คาดไว้มู่เฉินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ เธอเห็นอานน่านั่งอยู่ข้าง ๆ เขา หย่าหยิงเคยเจอเธอมาก่อน
“ในที่สุดเธอก็รู้เวลากลับแล้วสินะ?” มู่เฉินดับบุหรี่แล้วจ้องไปที่เธอ ตาเธอบวมจากการร้องไห้ และหน้าก็เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไปจัดการกับเรื่องสำคัญมาค่ะ มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องทำ” หย่าหยิงก้มหัวลง
“ฉันไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวของเธอ!” เขาตวาดใส่เธอ
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ” หย่าหยิงพูดพลางก้าวเท้าไปข้างหน้า เธอตั้งใจจะเดินออกไป แต่เขาก็เรียกเธอไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันอนุญาตให้เธอออกไปแล้วเหรอ?” มู่เฉินลุกขึ้นและเดินตรงไปหาเธอ “เธอคิดว่าเธอเป็นคุณนายเหลิ่งจริง ๆ เหรอไง คุณนายเหลิ่ง?”
“ไม่ใช่ค่ะ” หย่าหยิงไม่เคยคิดว่าตัวเองได้รับสถานะนั้นเลย “ฉัน....ฉันต้องไปเตรียมอาหารเย็นตามที่คุณสั่ง ฉันขอตัวนะคะ มื้อค่ำนี้คุณอยากจะทานอะไรคะ?”
มู่เฉินจ้องเธอพักหนึ่งแล้วเดินกลับไปนั่งข้างอานน่า เขามองอานน่าอย่างอ่อนโยนแล้วถามว่า “เธออยากกินอะไรไหม?”
อานน่ามองไปที่หย่าหยิงแล้วควงแขนมู่เฉิน “คุณเหลิ่งคะ คุณนายเหลิ่ง ทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ? ฉันไม่อยากท้องเสีย ถ้าต้องทานอาหารจากคนแปลกหน้านะคะ”
“ลองชิมดูก่อนล่ะกัน ถ้าเธอไม่ชอบ เดี๋ยวฉันจะพาเธออกไปทานข้างนอก” หย่าหยิงเห็นความใกล้ชิดของพวกเขา แต่เธอก็ไม่ได้หันไปมอง เขาจงใจให้เธอเห็นเหรอ?
แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องทำอย่างนั้นสักหน่อย
หย่าหยิงเดินเข้าไปในครัว โดยที่ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เมื่อเห็นวัตถุดิบในตู้เย็น เธอก็บอกกับตัวเองว่าเธอจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่
มู่เฉินอยากจะทดสอบเธอ เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ เพื่อให้เธออยู่อย่างไม่สงบสุข
เขาสั่งให้แม่บ้านคนอื่น ๆ ไปทำงานที่บ้านหลังอื่นกันหมด เพื่อที่จะได้ไม่มีใครมาช่วยเธอ เขาอยากเห็นว่าเธอจะเก่งซักแค่ไหนกัน