ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
ผู้เขียน:จิรโชติ ทองม่วง
หมวดหมู่โรแมนติก
ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
“พี่หนานคะ ฉันรู้สึกหนาวจังเลย” โยว่หงยิ้มอย่างหว่านสเน่ห์เพื่อปลุกสัญชาติญาณความเป็นชายในตัวเขาออกมา น้ำเสียงอันเย้ายวนของเธอยากที่ใครจะปฏิเสธได้
กู้หนานใช้แขนทั้งสองโอบเอวของโย่วหงไว้ และพูดว่า “เข้าไปในรถกันเถอะ เดี๋ยวพี่จะทำให้เธออุ่น”
การนอนกับผู้หญิงไปเรื่อยไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับคุณกู้หนาน
แต่ถึงยังไง เสี่ยหมียนก็ยังเป็นผู้หญิงคนโปรดของเขา เขาอยากจะนอนกับเธอมากแต่ยังไม่มีโอกาสสักที จึงได้แต่พยายามควบคุมอารมณ์ของเขาไว้ และสาบานกับตัวเองว่าสักวันหนึ่งต้องกินเธอให้ได้ เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเธอต้องเป็นผู้หญิงของเขาอย่างแท้จริง
...
แม้ว่าพวกเขาคบกันมาเพียงสามปี แต่เสี่ยเหมียนนั้นก็รักเขาสุดหัวใจ แต่เธอกลับถูกตอบแทนด้วยการหักหลังทั้งจากแฟนของเธอ และเพื่อนสนิทของเธอในเวลาเดียวกัน ความเศร้าโศกทำให้เธอเหม่อลอยเหมือนคนไร้วิญญาณ เธอไปนั่งดื่มที่บาร์เพื่อที่จะได้ลืมความเศร้านี้ไป
ตอนประมาณตี สอง คุณเสี่ยเหมียนเดินออกมาจากบาร์ด้วยท่าทางมึนเมาและขาดสติ เธอถอดรองเท้าส้นสูงออก เดินไปมาอยู่กลางถนน
ทันใดนั้น มีแสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งสาดเข้ามายังเธออย่างกะทันหัน ทำให้เธอรู้สึกแสบตาอย่างรับมือไม่ทัน เสี่ยเหมียนรู้สึกมึนงงและตัวแข็งทื่อไป เธอยืนค้างอยู่ตรงนั้นมองดูรถมายบัคสีดำขับตรงมาที่เธอ
“โอ๊ย” เสี่ยเหมียนล้มลงในขณะที่รถหยุดชะงักตรงหน้าเธอ
การเบรคกระทันหันทำให้คนที่กำลังพักสายตาอยู่ในรถนั้นกระเด้งออกจากที่นั่งทันที เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะชำเลืองมองที่เสิ่นห้าว ที่เป็นทั้งคนขับรถและผู้ช่วยส่วนตัวของเขา
“เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณ ถิ๋งเจว๋ครับ” เสิ่นห้าวตอบขณะที่บนหน้าผากของเขาเหงื่อไหลออกไม่หยุด “จู่ ๆ ก็มีคนเดินมาตัดหน้ารถ ผมก็เลยเหยียบเบรคอย่างเต็มแรง ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุไปแล้วครับ อาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพก็ได้ครับ”
“ลงไปจัดการซะ
“ครับ คุณ ถิงเจว๋”
เสิ่นห้าวลงจากรถเพื่อไปดูว่ามีคนได้รับบาดเจ็บหรือไม่ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือผู้หญิงสวยที่นอนหมดสติอยู่หน้ารถ ขณะที่เสิ่นห้าวเข้าไปดูใกล้ ๆ เขาได้กลิ่นเหล้ามาจากตัวของเธอ ดูเหมือนว่าเธอไม่น่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพ
“นี่ คุณ! คุณ ตื่น!”
เขาตกใจมากเมื่อเขามองเห็นว่าผู้หญิงที่นอนหมดสติอยู่ตรงหน้าของเขาคือใคร
‘นี่มันคุณไป๋เสี่ยเหมียน แฟนของคุณกู้หนาน? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ?’ เสิ่นห้าวสงสัย
โชคดีที่เขาเป็นคนขับรถ ถ้าเป็นคนอื่นเธออาจจะโดนชนไปแล้ว!
เสิ่นห้าวไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง เขาจึงรีบกลับไปบอกเจ้านายของเขาว่าเขาเห็นอะไร “คุณ กู้ครับ คนที่นอนหมดสติอยู่หน้ารถของเรา คือคุณไป๋เสี่ยเหมียน แฟนของคุณกู้หนาน ดูเหมือนเธอจะเมามากครับ…”
พอรู้ว่าเป็นไป๋เสี่ยวเหมียน ดวงตาของกู้ถิงเจว๋ก็เปิดกว้าง เขาจำเธอได้ ผู้หญิงที่กู้หนานเคยพากลับมาที่บ้าน เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักและมีรอยยิ้มที่สดใสอยู่เสมอ เขาสั่งโดยไม่ลังเล “พาเธอขึ้นมาในรถ”
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง เสิ่นห้าวก็รีบอุ้มเสี่ยเหมียนขึ้นรถ
เสี่ยเหมียนนอนอยู่บนรถรู้สึกไม่สบายตัว เธอพึมพำ ลืมตา แล้วจ้องไปที่ชายที่กำลังนั่งนวดหว่างคิ้วอยู่ข้าง ๆ เธอด้วยสายตาว่างเปล่าและมึนงง เสี่ยเหมียนถาม “คุณเป็นใคร...”
ชายคนนั้นหันมามองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เสี่ยเหมียนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอคือใคร เธอพูดตะกุกตะกัก “กู้ กู้ถิงเจว๋? เป็น... เป็นคุณนี่เอง!”
ถิงเจว๋ไม่สนใจเธอและบอกให้เสิ่นห้าวขับรถตรงไปที่บ้านของกู้หนาน
แค่ได้ยินชื่อของกู้หนาน เสี่ยเหมียนก็อารมณ์เสียทันที “ฉันไม่อยากไปบ้านเขา ฉันเลิกกับเขาไปแล้ว!”
“เลิกกันแล้ว?” ถิงเจว๋ทวนคำพูดของเธอพลางเลิกคิ้วขึ้น
“ใช่ เราเลิกกันไปแล้ว...” พูดจบ เสี่ยเหมียนก็สะอื้นขึ้นมาทันที น้ำตาของเธอไหลออกมาทันทีที่เธอนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันก่อน หัวใจของเสี่ยเหมียนแตกสลาย ก่อนพูดต่อ “เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น... แถมยังค้าประเวณี!”
เธอตั้งใจพูดให้ดูรุนแรง อย่างกับนักเรียนกำลังฟ้องคุณครูอย่างไรอย่างงั้น
ถิงเจว๋ถึงกับชำเลืองมองไปที่เธอ ‘ค้าประเวณี? ท่าทางต้องจัดการกู้หนานบ้างแล้ว’ ถิงเจว๋คิด
ตามจริงแล้ว ถิงเจว๋ไม่ได้คาดหวังในตัวหลานชายคนนี้มากมาย เพราะถึงยังไงกู้หนานก็ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของเขา ถิงเจว๋ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการที่กู้หนานมีอะไรกับผู้หญิงอยู่แล้ว แต่จะไปเอี่ยวกับเรื่อง “การค้าประเวณี” ซึ่งอาจทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียแบบนี้ไม่ได้
“กู้ถิงเจว๋ คุณต้องสั่งสอนให้มันหลักจำไปเลยนะ!”
คุณถิงเจว๋ยังคงจงใจเพิกเฉยต่อคุณเสี่ยเหมียน ขณะที่เธอเน้นย้ำคำพูดของเธอด้วยความโกรธอีกครั้ง เสี่ยเหมียนคิดว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด เธอจึงขยับเข้าไปใกล้ ๆ ถิงเจว๋อีก เธอโอบคอของถิงเจว๋ไว้ ก่อนดึงเขาเข้ามาใกล้เธอ แล้วพูดว่า “คุณได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย?”
ถิงเจว๋ขมวดคิ้วแล้วดันมือเธอออก ทำให้เธอเสียการทรงตัวและล้มลงบนตักของเขา ใกล้กับหว่างขาของเขา
เธออ้าปากหายใจโดยไม่รู้ตัว กลิ่นเหล้าพร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ของเธอก็แผ่ซ่านไปที่จุดซ่อนเร้นของเขาซึ่งมีเพียงผ้าบาง ๆ สองชั้นปิดไว้
คุณถิงเจว๋ถึงกับหยุดหายใจอยู่ครู่หนึ่ง
“คุณต้องสั่งสอนเขาสักที!” เสียงของเสี่ยเหมียนช่างนุ่มนวลและเย้ายวน
“ผมควรจะสอนคุณก่อน” ถิงเจว๋ผลักหัวเสี่ยเหมียนออกไปและพูดด้วยเสี่ยงแหบ ๆ ว่า “ลุกขึ้นมา!”
‘กล้าดียังไงมายั่วยวนผมในรถผม? เธอจงใจหรือเปล่า?’
“กู้หนานเป็นคนสารเลว! และคุณก็คงไม่ต่างอะไรกับเขา! ผู้ชายทุกคนบนโลกนี้มันเลว...” เสี่ยเหมียนพูด เสี่ยเหมียนพิงเขาและปฏิเสธที่จะนั่งตัวตรง เธอทำตัวเหมือนเด็กที่งอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
ถ้าเธอเจอเขาตอนที่ไม่เมา เธอคงไม่กล้าแม้แต่จะมองคุณถิงเจว๋แน่ๆ เพราะเธอกลัวความบ้าระห่ำของเขา แต่เพราะฤทธิ์ของเหล้าในขณะนั้น ทำให้คุณเสี่ยเหมียนขาดสติ และเธอก็พ่นเรื่องไร้สาระที่เข้ามาในหัวของเธอโดยไม่ทันคิดถึงสิ่งที่จะตามมา
“เขาบอกว่าฉันต้องชินกับความสัมพันธ์บ้าบอนั่นของเขากับผู้หญิงอื่น ไปตายซะ คนสารเลวไร้ยางอาย!” คุณเสี่ยเหมียนสาปแช่งอย่างโกรธจัด จากนั้นเธอเอาความโกรธของเธอไปลงกับคุณถิงเจว๋ “คุณก็คงไม่ต่างอะไรกับเขา... และคุณเองก็มีหน้ามีตาเป็นคนใหญ่คนโต เป็นถึงประธานบริษัท คุณก็คงมีผู้หญิงวิ่งตามเป็นฝูง น่าจะพอที่จะตั้งทีมฟุตบอลได้เลย คอยที่จะประจบประแจงคุณตลอดเวลา...”
คุณถิงเจว๋เริ่มหมดความอดทน สีหน้าของความไม่พอใจค่อยๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาไม่รู้จะจัดการยังไงกับผู้หญิงขี้เมาคนนี้ดี คุณถิงเจว๋พยายามผลักเธอออกไป เธอล้มลง และไถลกลับมาเกาะเขาเป็นตังเมเหมือนเดิม คุณเสี่ยเหมียนไม่มีความรู้สึกละอายสักนิดเลย
ความขาดสติของคุณเสี่ยเหมียนยังคงไม่หยุดเพียงแค่นั้น เธอเอื้อมมือไปกอดคอของเขาไว้ ก่อนจะพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มว่า “กู้ถิงเจว๋ คุณมีปัญหาไตพร่องหรือเปล่า? ห๊ะ ?”
นี่เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่เขาจะทนไม่ได้ ขณะที่เธอเล่นสนุกกับความเป็นชาย คุณถิงเจว๋โกรธจนตาลุกเป็นไฟ
แต่คุณเสี่ยเหมียนก็ไม่ได้มีทีท่าเกรงกลัวเขาเลย เธอกลับยิ้มและมองลึกเข้าไปในตาเขา ดวงตาของเธอเปล่งประกายราวกับเพชรที่ระยิบระยับอยู่ภายใต้แสงจันทร์ นัยน์ตาของเธอสะท้อนให้เห็นเงาของเขา
ริมฝีปากแดงของเธอกำลังจะเปิดขึ้นเพื่อพูด เป็นเหมือนเกสรที่รอให้ผึ้งมาจุมพิตไป
กู้ถิงเจว๋นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้ ริมฝีปากนี่คือปากเล็ก ๆ ที่พ่นลมร้อนออกมาพร้อมกับกลิ่นเหล้า ที่พ่นไปที่... ผู้หญิงคนนี้น่าหลงไหลเป็นบ้า!
“ให้ตายเถอะ เธอมันผู้หญิงบ้าบิ่น! เธอเป็นคนยั่วผมก่อนนะ เธอทำตัวเธอเอง”
เขาใช้มือจับที่ท้ายทอยของเธอ และดึงเธอเข้ามาใกล้ แล้วประกบจูบเธออย่างดูดดื่ม ราวกับว่าพยายามจะกลืนคำพูดเวิ่นเว้อของเธอเข้าไปอย่างไรอย่างงั้น
“เอ่อ...” การพูดพล่ามของเธอทั้งหมดถูกกลืนกินด้วยจูบที่ไม่รู้จักพอของเขา