ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
ผู้เขียน:จิรโชติ ทองม่วง
หมวดหมู่โรแมนติก
ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
เสี่ยเหมียนไม่เคยคิดมาก่อนว่ากู้หนานจะโกรธรุนแรง และไร้เหตุผลได้ถึงเพียงนี้ เธอเริ่มกลัวกับความขาดสติของเขา แม้ว่าร่างกายของกู้หนานกำลังกดทับเธออยู่ แต่เธอก็พยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ “ออกไป! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”
เธอยอมรับไม่ได้ที่จะมีอะไรกับกู้หนานในตอนนี้!
“ทำไมฉันถึงแตะต้องตัวเธอไม่ได้? คุณเสี่ยเหมียน คุณมันไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนแต่ก่อนแล้ว คุณมันก็แค่สินค้าที่มีตำหนิ คุณควรจะขอบคุณที่ผมยังเต็มใจอยากจะนอนกับคุณ!”
คุณกู้หนานตะโกนใส่เธออย่างดุเดือด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเธอราวกับว่าเขาจะถลกหนังเธอออกเป็นชิ้น ๆ
“แปร๊น—” คุณกู้หนานถูกขัดจังหวะด้วยเสียงแตรรถที่ดังมาจากด้านหลังรถของเขา คุณกู้หนานและคุณเสี่ยเหมียนต่างก็ตกใจ
เสี่ยเหมียนใช้โอกาสที่กู้หนานไม่ทันตั้งตัว ยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่เป้าของเขาอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย” คุณกู้หนานคร่ำครวญน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บปวด
คุณเสี่ยเหมียนผลักเขาออกไป รวบเสื้อผ้าของตัวเอง และลงจากรถด้วยท่าทางตื่นตระหนกอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งเร็วเท่าที่จะทำได้ โดยไม่สนใจว่าสิ่งรอบข้างคืออะไร
คุณกู้หนานมองดูเธอค่อย ๆ หายตัวไป เขาได้แต่ยืนบิดตัวไปมา เพราะความเจ็บทำให้เขาไม่สามารถวิ่งตามเธอไปได้ แต่ด้วยความแค้นของเขา เขาตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงว่า “คุณเสี่ยเหมียน…”
คุณกู้หนานไม่ยอมปล่อยคุณเสี่ยเหมียนไปง่ายๆแบบนี้แน่ เขารับความจริงไม่ได้ว่าเขาถูกแฟนสาวหักหลัง โดยไปนอนกับคนอื่นก่อนที่เขาจะมีอะไรกับเธอ ความแค้นปกคลุมอยู่เต็มหัวใจของเขา เขาสาบานกับตัวเองว่าจะต้องให้เสี่ยเหมียนกับไอ้ผู้ชายคนนั้นชดใช้กับสิ่งนี้ให้ได้!
หลังจากที่เขาพยายามตั้งหลัก เขานึกได้ถึงเสียงแตรรถที่ส่งเสียงขัดจังหวะของเขากับคุณเสี่ยเหมียนได้ในทันที เขาลงจากรถของเขาไปเพื่อมองหารถนั่นในทันที
แต่แล้วเขาก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทันทีที่เห็นรถมายบัคที่คุ้นเคยจอดอยู่ไม่ไกล เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของรถเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกกลัวเจ้าของรถคันนั้นอีกด้วย
ชายเจ้าของรถได้เดินออกมาจากรถและเดินตรงไปที่คุณกู้หนานด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
คุณกู้หนานเอามือจัดผม จัดเสื้อผ้าและยืนตัวตรงขณะมองไปยังชายที่เดินเข้ามาหาเขา
นั่นคือคุณกู้ถิงเจว๋ลูกชายบุญธรรมของคุณปู่ของเขา จึงถือได้ว่ามีศักดิ์เป็นคุณอา คุณถิงเจว๋มีอายุมากกว่าเขาเพียงสามปี แม้ว่าคุณถิงเจว๋อายุยังน้อย แต่เขาเคยดำรงตำแหน่งประทานบริษัทของธุรกิจครอบครัวของพวกเขา คุณกู้หนานเคยได้ยินชื่อเสียงความก้าวร้าวของคุณอาของเขา เขาจึงมีความยำเกรงคุณอาของเขามาก
เขาไม่แน่ใจว่าคุณถิงเจว๋รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปเมื่อกี้หรือเปล่า เขากลัวมากว่าคุณอาของเขาจะรู้ “คุณอาถิงเจว๋ คุณอามาทำ...“
“ปัง!”
คุณกู้หนานหยุดพูดอย่างกะทันหันและทำตัวไม่ถูก เมื่อคุณถิงเจว๋เดินปรี่เข้ามาและชกหน้าเขาอย่างแรง
คุณกู้หนานจำไม่ได้ว่าเขากำลังจะพูดว่าอะไร ได้แต่ยืนตกตะลึงกับหมัดของคุณถิงเจว๋ “อะไรกันครับ คุณอา?”
ทว่าถิงเจว๋ก็ไม่อธิบายอะไรออกมาว่าทำไมเขาถึงต่อยคุณกู้หนาน แต่กลับต่อยเข้าไปที่ท้องของเขาอย่างแรงอีกครั้ง
ทำให้กู้หนานลงไปนอนกองกับพื้นทันที ต่อให้เขาจะเคารพถิงเจว๋มากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจที่จะทนให้ถิงเจว๋ทำร้ายเขาต่อไปได้ เขาเลยท้วงกลับ “อาถิงเจว๋ นี่มันอะไรกัน?”
เมื่อถิงเจว๋ได้ยินคำถามของกูหนาน เขาก็ยิ่งไม่พอใจ เขาต่อยรัวไปที่กูหนานอย่างไม่ยั้งมือ ราวกับต้องการให้เขาตายคามือ
คุณกู้หนานรู้ว่าเขาสู้กับคุณอาของเขาไม่ได้ และด้วยสถานะของคุณถิงเจว๋ในครอบครัวนี้ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าสู้กลับ เขาได้แต่ทนต่อความเจ็บปวดนี้ จนเขาทนไมไหวในที่สุด
หลังจากคุณถิงเจว๋ทำจนหนำใจ คุณถิงเจว๋จากไปไม่แม้จะอธิบายว่าเขาทำลงไปเพราะอะไร มีเพียงเสิ่นห้าวเท่านั้นที่เป็นคนพาคุณกู้หนานไปโรงพยาบาล
หลังจากที่ได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล คุณกู้หนานยังคงมีอาการบาดเจ็บ แต่ที่เขาสงสัยก็คือ คุณถิงเจว๋ทำร้ายเขาแบบนี้ทำไมกันนะ
ทั้งที่จริงแล้วคุณถิงคุณเจว๋ใจดีกับเขามากให้ทั้งการศึกษาและโอกาสและสิทธิพิเศษ คุณถิงเจว๋ให้อภัยกับเรื่องที่เขาทำเสมอตราบใดที่ไม่ทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย
คุณกู้หนานคิดไปว่า หรืออาจจะเป็นเพราะคุณถิงเจว๋รู้เรื่องที่เขาโดนจับขึ้นโรงพักกันนะ
ยิ่งคุณกู้หนานคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขายิ่งมั่นใจว่าเป็นเรื่องนี้แน่ๆ ‘ใช่ ต้องเป็นเหตุผลนี้แน่ ๆ’ เขาคิดอย่างนั้น เขาคิดว่าที่คุณถิงเจว๋ทำกับเขาแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าสิ่งที่คุณกู้หนานทำกับคุณเสี่ยเหมียน เพราะคุณถิงเจว๋คงไม่มานั่งเสียเวลาเพื่อปกป้องคนแปลกหน้าอย่างเธอ พระเจ้า!
ต่อไปเขาคงต้องระวังไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่สำหรับคุณเสี่ยเหมียน... เธอกล้าดียังไงมาทรยศเขา! เขาสาบานกับตัวเองว่ายังไงเขาก็ต้องตามหาผู้ชายคนนั้นให้ได้ เขาจะเป็นคนชำระแค้นกับคนที่มาเป็นชู้กับแฟนสาวของเขาให้ได้!
คุณเสี่ยเหมียนใช้ชีวิตอย่างสงบไร้การกวนใจจากคุณกู้หนาน เพราะเขารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสองสามวันแล้ว แต่ข่าวการเลิกกันของพวกเขาได้แพร่กระจายเป็นไฟลามทุ่ง บวกกับคุณโยว่หงที่แกล้งเล่นละครต่อหน้าทุกคนในบริษัท ทำให้ทุกคนคิดว่าเสี่ยเหมียนเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่นอกใจแฟนของตัวเอง
คุณเสี่ยเหมียนได้แต่หัวเราะเยาะกับความคิดนั้น ‘เธอกำลังพูดถึงตัวเองอยู่หรือเปล่า?’ เสี่ยเหมียนครุ่นคิดว่า โยว่หงทำไมถึงไร้ยางอายได้มากขนาดนี้ ถึงกับแต่งเรื่องเพื่อใส่ร้ายตัวเอง
แต่ต่อให้เธอจะปฏิเสธเพื่อที่จะปกป้องตัวเองมากแค่ไหน เธอก็ยังได้รับผลกระทบจากข่าวลือนี้อยู่ดี เธอไม่เพียงแต่โดนลดตำแหน่งโดยคุณ ฮวา อีกทั้งยังตกเป็นผู้ช่วยของคุณโยว่หงด้วย
ยิ่งทำให้คุณโยว่หงรู้สึกว่าตัวเองเอาชนะคุณเสี่ยเหมียนได้อีกครั้ง คุณโยว่หงอิจฉาคุณเสี่ยเหมียนมาตลอดเพราะด้วยพรสวรรค์ของเธอในการออกแบบเครื่องประดับที่ไม่มีใครเทียบชั้นกับเธอได้เลย ‘แล้วไง?’ คุณโยว่หงหัวเราะเยาะคุณเสี่ยเหมียนที่เธอโดนลดขั้น แล้วจากนี้ต่อไปคุณเสี่ยเหมียนต้องทำตามที่เธอสั่งทุกอย่าง!
วันหนึ่ง โยว่หงจงใจสั่งงานเสี่ยเหมือนเยอะมากปกติอีก ทำให้เสี่ยเหมียนต้องอยู่ทำงานต่อจนดึก
วันนั้นกว่าคุณเสี่ยเหมียนจะทำงานเสร็จก็ปาไปเกือบสามทุ่มแล้ว เมื่อเธอออกจากบริษัทไป เธอพบว่าทุกคนกลับบ้านหมดแล้ว และเหลือเธอเพียงคนเดียวในบริษัท
เธอเตรียมเก็บข้าวของก่อนออกไป และเดินออกไปที่ประตูแต่กลับพบว่าประตูนั้นได้ถูกล็อคจากด้านนอก
คุณเสี่ยเหมียนไม่สงสัยเลยว่าใครเป็นคนทำ คุณโยว่หงเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ ๆ
เธอกำลังสับสนกระวนกระวายหาทางที่จะออกไปจากที่นี่ แต่จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียง ‘พับ’ ไม่นานหลังจากนั้น ไฟในบริษัทก็ดับลง และในทันใดทั้งบริษัทก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด
หน้าของคุณเสี่ยเหมียนซีดเผือก เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดและบรรยากาศที่มืดมิดทำให้เธอนึกถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดในวัยเด็กของเธอที่เคยถูกลักพาตัว
แล้วคุณโยว่หงเองก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน
ในบริษัทมืดเกินกว่าจะมองเห็นอะไร คุณเสี่ยเหมียนรวบรวมสติเพื่อคลำหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอ และเธอก็เริ่มกดเบอร์
โทรหาเพื่อนร่วมงานสองสามคนเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาทั้งหมดปัดเธอพร้อมกับแต่งเรื่องขึ้นมาเป็นข้ออ้างก่อนที่จะตัดสายเธอไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าโยว่หงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
คุณเสี่ยเหมียนมีเพื่อนไม่มาก และที่เลวร้ายไปกว่านั้น เพื่อนของเธอไม่ได้อาศัยอยู่แถวนี้
คุณเสี่ยเหมียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจโทรหาคุณกู้หนาน อย่างน้อยที่สุด เธอก็หวังว่าเขาจะช่วยเหลือเธอเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่พวกเขาเคยมี
แต่โชคก็ไม่เข้าข้างคุณเสี่ยเหมียน คุณโยว่หงเป็นคนรับโทรศัพท์ของคุณกู้หนาน
ด้านปลายสายกำลังครางเสียงกระเส่า เธอคิดว่าคุณโยว่หงตั้งใจจะยั่วยุเธอ และแสดงว่าเธอใกล้ชิดกับคุณกู้หนานมากแค่ไหน เธอยังได้ยินคุณกู้หนานเสียงหอบอยู่ด้านหลัง
คุณเสี่ยเหมียนรู้สึกขยะแขยงกับเสียงนี้ ก่อนที่เธอจะวางสายไปอย่างรวดเร็ว
เธอรู้ว่ามันโง่มากที่เธอโทรหาคุณกู้หนานเพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังจากโทษตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง คุณเสี่ยเหมียนนั่งพิงกำแพงและถือโทรศัพท์แน่น โดยไม่รู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากใคร
เธอถูกปกคลุมด้วยความมืดและความเงียบที่น่าขนลุกรอบๆห้อง คุณเสี่ยเหมียนหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาก็ยังคงเดินต่อไป ความทรงจำอันเจ็บปวดจากวัยเด็กของเธอเริ่มตอกย้ำขึ้นเรื่อยๆ จากความกังวลของเธอประกอบกับความมืดรอบตัว ความสิ้นหวังและความกลัวกลับเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง
“ไม่ ฉันอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้...” เสี่ยเหมียนรู้สึกใจหายวาบ เหงื่อหยดเล็ก ๆ ไหลออกจากหน้าผากของเธอ เธอกำโทรศัพท์แน่น เลื่อนหน้าจอขึ้นลง จนกระทั่งชื่อ “คุณถิงเจว๋” ปรากฏขึ้น