ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
ผู้เขียน:จิรโชติ ทองม่วง
หมวดหมู่โรแมนติก
ท่านประธานอย่ารักฉันมากนักเลย
“พี่หนาน อย่าโกรธไปเลยนะคะ ฉันไม่อยากให้พี่เสียสุขภาพ ...” คุณโยว่หงพยายามเกลี้ยกล่อมกู้หนานให้ไปอาบน้ำก่อนเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย และคอยเอาอกเอาใจเขา เธอทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ได้เป็นคุณผู้หญิงของกู้หนาน เธอมีความสามารถมากพอที่จะกำจัดผู้หญิงทุกคนที่ขวางทางของเธอ
กู้หนานปฏิเสธไม่ได้ว่าโยว่หงมีรูปร่างที่เย้ายวนเขามากจริงๆ เพราะฉะนั้นก็คงไม่แปลกอะไรที่เขาจะสนใจเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่น “คราวนี้คุณต้องการอะไร? เสื้อผ้า? เครื่องประดับ?” เขาถาม
เสี่ยเหมียนไม่เคยขออะไรจากเขาเลย ในทางกลับกันเธอเป็นคนที่รู้จักอดออม และประหยัดเงินช่วยเขา เธอจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการที่จะมาเป็นภรรยาในอุดมคติของเขา แต่น่าเสียดายที่เธอทรยศและทำลายความเชื่อใจที่เขามีให้เธอ! รอยจูบที่คอของเธอเป็นหลักฐานมัดตัวเธอ!
“เปล่าค่ะ ฉันแค่เป็นห่วงคุณจริงๆ” โยว่หงเกาะแขนกู้หนานอ้อนเขาราวกับเป็นเด็ก
“โอ้?” กู้หนานชำเลืองมองและหัวเราะเยาะ “ผมนึกว่าคุณต้องการอะไรจากผมเสียอีก ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ”
คำพูดของกู้หนานทำให้โยว่หงรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “พี่อ่านใจฉันออกอีกแล้ว จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พี่หนาน พี่เป็นคนดีที่สุดในสายตาของฉันเลย พี่พอจะช่วยอะไรฉันสักอย่างได้ไหมคะ? ”
กู้หนานไม่ตอบตกลงในทันที เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “เธอต้องบอกผมมาก่อนว่ามันคืออะไร”
“ฉันเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเครื่องประดับและได้เข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว แต่... ฉันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เพราะงั้น...พี่ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมคะ? ”
“เสี่ยเหมียนได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ด้วยหรือเปล่า? ”
โยว่หงพยักหน้าและสังเกตการแสดงออกของเขา “พี่หนานคะ…”
“มันก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของเธอสิ” กู้หนานเยาะเย้ย เมื่อนึกถึงใบหน้าของเสี่ยเหมียน
ยังไงซะกู้หนานก็ตั้งใจที่จะช่วยโยว่หงอยู่แล้ว ตราบใดทำให้เขาได้แก้แค้นเสี่ยเหมียนที่ทรยศเขา!
เวลาผ่านไป เช้าก่อนที่รอบชิงชนะเลิศก็มาถึง ดีไซเนอร์ที่ผ่านการคัดเลือกรอบชิงชนะเลิศทั้งหมดต้องพักอยู่ในห้องพักที่โรงแรมกำหนดไว้ เพื่อป้องกันการโกง เช่น จ้างคนสอบแทน ทางกองประกวดใช้มาตรการที่เข้มงวดนั้น เพื่อรับรองว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างยุติธรรมและปลอดภัย
หลังจากเสี่ยเหมียนถึงห้องพักของเธอแล้ว เธอวางกระเป๋าไว้ข้าง ๆ แล้วนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน เธอรู้สึกประหม่าเมื่อนึกได้ว่านักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกก็มาเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วยเช่นกัน
เธอต้องการชนะการแข่งขันในครั้งนี้จริง ๆ แต่เนื่องจากมีนักออกแบบที่มีความสามารถมากมาย เธอมีโอกาสชนะอยู่เหรอ?
“คลิ๊ก คลิ๊ก” ทันใดนั้น เสียงบิดของลูกบิดประตูก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดของเสี่ยเหมียน เธอตื่นจากภวังค์พลางลุกจากเตียงทันทีและถามว่า “นั่นใคร?”
เธอจำได้ดีว่าเธอล็อกห้องไปเรียบร้อยแล้ว...
แต่น่าแปลกที่ประตูถูกเปิดออกจากด้านนอก ขณะที่ในมือของเสี่ยเหมียนถือคีย์การ์ดห้องของเธออยู่ เมื่อประตูได้เปิดออก เสี่ยเหมียนมองเห็นชายวัยกลางคนยืนอยู่ที่ประตู เขาเป็นผู้ชายอ้วนลงพุง หัวล้าน
“กรรมการผู้ตัดสินเหรอ?”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเลขาหลี่ หนึ่งในกรรมการผู้ตัดสินที่โดดเด่นของการแข่งขันครั้งนี้ เสี่ยเหมียนเคยเห็นเขามาก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือรูปร่างหน้าตาของเขา เขาเหมือนกับไขมันที่เดินได้
‘ทำไมกรรมการผู้ตัดสินเลขาหลี่ถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้?’ เธออาจจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการติดสินบนกรรมการผู้ตัดสินได้อย่างง่ายดาย!
“คืองี้ เสี่ยเหมียน ฉันเคยเห็นผลงานของคุณทั้งหมดมาก่อนหน้านี้แล้ว คุณมีพรสวรรค์จริง ๆ...” ดวงตาเจ้าชู้ของเลขาหลี่จับจ้องไปที่เสี่ยเหมียน ขณะที่เขาค่อย ๆ ล็อกประตูอย่างช้า ๆ
เสี่ยเหมียนสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลขึ้นมาทันที ขณะที่เธอพูดกับเขาว่า “ขอบคุณมากนะคะ แต่ฉันคิดว่าตอนนี้เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน ถ้าจะคุยก็ออกไปข้างคุยกันข้างนอกดีกว่าค่ะ”
“ฉันคิดว่าข้างนอกจะทำให้ฉันเสียสมาธิต่อการคุยเรื่องอะไรต่อมิอะไรระหว่างเรานะสิ” เลขาหลี่เดินตรงเข้าไปหาเสี่ยเหมียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่บ้ากามและน่ากลัว
เธอพยายามคิดอย่างหนักที่จะหาวิธีให้เขาออกไป แต่เขาจู่โจมเข้าหาเธออย่างกระทันหัน โดยไม่มีเวลาให้เธอได้คิดอะไรเลย เขากระโจนเข้าหาเธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ!
เธอตกใจมาก เธอพยายามที่จะหลบเขา เลขาหลี่คว้ามือของเธอก่อนที่เธอจะล้มลง เขาจับมือเธอไว้แน่น
“อย่าวิ่งหนีฉันไปไหนเลยน้าที่รัก ถ้าคืนนี้คุณทำให้ผมมีความสุขได้ ผมสัญญานะว่าคุณจะได้เป็นหนึ่งในสามของนักออกแบบแน่ ๆ” เลขาหลี่ดึงมือของเธอด้วยแววตาหื่นกาม แสดงให้เห็นแรงปราถนาที่เขามีต่อเธอ
“กรรมการเลขาหลี่คะ! ได้โปรดสำรวมตัวด้วยค่ะ!” เสี่ยเหมียนพยายามแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล เธอทำได้เพียงมองเขาด้วยความโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้
“สำรวม? เธอเป็นคนทิ้งโน้ตไว้ในห้องของฉัน เธอต่างหากที่ร้องขอให้ฉันมีอะไรกับเธอ!”
“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น! ฉันไม่ได้เขียนจดหมายถึงคุณ!” เสี่ยเหมียนปฏิเสธด้วยความโกรธจัด เธอรู้ทันทีว่าต้องมีการเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่างแน่ ๆ!
“ไม่เอาน่า! ฉันทำให้เธอเป็นคนมีชื่อเสียงได้นะ อย่ามาเล่นตัวกับฉันหน่อยเลย!”
เลขาหลี่เริ่มหมดความอดทน เขายิ่งจับมือเธอแน่นมากขึ้น ในที่สุดเขาก็คว้าเธอเอาไว้ได้
เสี่ยเหมียนพยายามดิ้นรน เธอใช้อีกมือตบเข้าไปที่หน้าของเลขาหลี่ เสียงตบนั้นดังราวกับฟ้าร้อง
“นังตัวดี! กล้าดียังไงมาตบฉัน!” เลขาหลี่โกรธมาก ดวงตาของเขาดูเหมือนพร้อมที่จะระเบิด ไขมันที่อยู่บนใบหน้าของเขาสั่นระริกราวกับว่ามันกำลังเดือดปุด ๆ ด้วยความโกรธ “วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอเอง!”
เสี่ยเหมียนโกรธจนหน้าแดง เธอกำลังจะใช้วิธีเดียวกันกับที่เธอเคยจัดการกับกู้หนาน ในขณะนั้นเอง เธอได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังคุณของเลขาหลี่ มีคนเตะประตูเข้ามา!
“ใครวะ?” เลขาหลี่สบถด้วยความโกรธ ก่อนที่เขาจะมองย้อนกลับไปดูว่าเป็นใคร เขาก็ถูกต่อยเข้าอย่างแรงก่อนที่เขาจะรู้ตัว
“ไอ้เวร...” เมื่อเลขาหลี่เห็นใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างชัดเจน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “คุณ คุณถิงเจว๋... คุณมาทำอะไรที่นี่?”
ถิงเจว๋เหลือบมองเสี่ยเหมียนแล้วมองชายที่นอนกองอยู่บนพื้น ไฟแห่งความโกรธแค้นและความเกลียดชังลุกโชนขึ้นบนดวงตาของเขา ราวกับว่าพายุกำลังจะซัดเข้าชายฝั่งอย่างจัง
“กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวเธอ?”
ความเยือกเย็นของเสียงและคำพูดของเขาทำให้เสี่ยเหมียนตกใจหน้าซีดราวกับตุ๊กตากระเบื้อง เธอกลัวว่าตอนนี้ทุกคนจะรู้เกี่ยวกับเรื่องน่าสมเพชระหว่างเธอกับถิงเจว๋
สีหน้าของเลขาหลี่ไม่ค่อยสู้ดีนัก มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ก่อตัวขึ้นเต็มบนหน้าผากของเขา แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะกล่าวโทษเสี่ยเหมียน “คุณ ถิงเจว๋คือ... ผู้หญิงคนนี้ยั่วผมก่อน...”
ถิงเจว๋ไม่รอให้เขาพูดจนจบประโยค เขาจับเลขาหลี่ทุ่มลงกับพื้นและเตะเขาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเลขาหลี่เริ่มจะวิงวอนขอร้อง
ในใจของเขานั้นเขาถือว่าเสี่ยเหมียนเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว เขาจะยอมให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องตัวเธอได้ยังไง! คนสุดท้ายที่กล้าแตะต้องเธอคือกู้หนานหลานชายของเขา แต่เขาไม่สามารถฆ่าหลานชายของตัวเองได้ แต่สำหรับผู้ชายที่น่าสมเพชที่นอนดิ้นไปดิ้นมาบนพื้นห้องนั้น เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องสนใจ!
“คุณ ถิงเจว๋ ได้โปรดหยุดเถอะ...” เลขาหลี่ละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองและเริ่มวิงวอนร้องขอ เขาทรุดตัวลงแทบเท้าของถิงเจว๋อ้อนวอนร้องขอความเมตตา แต่เขากลับโดนเตะไปที่หน้าอีกครั้ง
เสี่ยเหมียนเป็นเหมือนผู้ชมที่ยืนตะลึง เธอยืนอยู่ที่นั่นอย่างหวาดกลัวไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน เธอไม่เคยเห็นความโหดร้ายเช่นนี้มาก่อน เขาไม่แตกต่างอะไรกับสัตว์ป่าที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย
“คุณ... คุณ ถิงเจว๋...”
“คุณสงสารเขาหรอ?” ถิงเจว๋ชำเลืองตาที่เย็นยะเยือกมองไปที่เธอ สายตาอันเฉียบคมเหมือนว่าเขามองทะลุร่างของเธอไป
เสี่ยเหมียนกลืนน้ำลาย และเสียงสั่นอ้อนวอน “อย่า อย่า คุณ ถิงเจว๋ คุณอาจจะฆ่าเขาตายได้... ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะคะ...”
ถิงเจว๋หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเปล่งเสียงหัวเราะชวนสยดสยอง
เมื่อเลขาหลี่เริ่มเบาใจเพราะเขาคิดว่าเขากำลังจะได้รับการให้อภัย รองเท้าราคาแพงของถิงเจว๋ก็เหยียบลงที่มืออ้วน ๆ ของเขาและกระถืบลงอย่างเต็มแรง